ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS
Container Icon

ตำนานการสร้างโลก BIRTH OF EARTH



แต่ละประเทศแต่ละทวีปก็มักจะมีตำนานการสร้างโลกเป็นของตัวเอง
บ้างก็เป็นเทพเจ้าสร้าง บ้างก็เป็นยักษ์ บ้างก็บอกว่าโลกถือกำเนิดเอง
วันนี้อามิทธ์เลยเอาตำนานการสร้างโลกของแต่ละที่มาอ้างให้อ่านกันครับ



ความเชื่อเรื่องการสร้างโลกของจีน เป็นนิทานปรัมปราที่เล่าสืบกันมาแต่โบราณว่า โลกเดิมทีเป็นฟองไข่ทรงกลม ที่ภายในมียักษ์ตนหนึ่งที่มีผมเพ้าและหนวดเครายาว มีร่างกายยาวถึง 90,000 ลี้ (ประมาณ 45,000 กิโลเมตร) ชื่อ ป้านกู วันหนึ่งป้านกูตื่นขึ้นมาและได้ฟักตัวออกจากไข่ ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลของป้านกู ป้านกูจึงดันส่วนบนของไข่ให้กลายเป็นสวรรค์และด้านล่างกลายเป็นโลก แต่สวรรค์และโลกกลับดูดตัวเข้าหากัน ป้านกูจึงให้พละกำลังดันทั้ง 2 ส่วนอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานับหมื่น ๆ ปี จนในที่สุดทั้งสวรรค์และโลกไม่อาจรวมตัวกันได้ ป้านกูจึงล้มลงและเสียชีวิต
ภายหลังเสียชีวิตแล้ว ตาข้างซ้ายของป้านกูกลายเป็นพระอาทิตย์ ตาข้างขวากลายมาเป็นพระจันทร์ ร่างกลายกลายเป็นภูเขา เลือดกลายเป็นแม่น้ำ ผมและหนวดเคราที่ยาวสลวยกลายเป็นผักและหญ้า
ผ่านไปหลังจากนั้นอีกเนิ่นนาน เจ้าแม่หนี่วา ได้ลงมาท่องเที่ยวชมพื้นโลก และชื่นชมว่าโลกเป็นสถานที่ ๆ น่าอยู่ยิ่งนัก เมื่อนางได้ใช้นิ้วจิ้มดินและเศษดินตกลงสู่น้ำก็กลายเป็นลูกอ๊อด องค์เจ้าแม่หนี่วา ทรงดีพระทัยยิ่งนัก จึงใช้ดินปั้นเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ จึงกำเนิดขึ้นเป็นสัตว์ชนิดต่าง ๆ แต่นางรู้สึกว่าขาดอะไรบางอย่างไป ในวันที่ 7 พระนางจึงเริ่มปั้นรูปเหมือนตัวพระนางขึ้น เกิดเป็นมนุษย์ผู้หญิงขึ้น และพระนางเกรงว่ามนุษย์ผู้หญิงนี้จะเหงา จึงปั้นรูปใหม่ขึ้นมาให้คล้ายเคียงกันเป็นมนุษย์ผู้ชาย และให้มนุษย์ทั้ง 2 เพศนี้อยู่คู่กันและออกลูกหลานสืบต่อกันมา
ต่อมา ฟูซี ซึ่งเป็นผู้ปกครองชนเผ่าของมนุษย์ได้สังเกตปรากฏการณ์ต่าง ๆ ของธรรมชาติ จนสามารถพึ่งตัวเองได้และเกิดเป็นองค์ความรู้ วันหนึ่งมีกิเลนตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมาจากแม่น้ำฮวงโห บนหลังกิเลนมีสัญลักษณ์ปรากฏที่ถูกเรียกในภายหลังว่า "แผนภูมิเหอถู" ซึ่งต่อมาได้พัฒนากลายเป็นตัวอักษร
หวงตี้ จักรพรรดิองค์แรก

หลังยุคฟูซี เสินหนง ได้เป็นผู้ปกครองแทน เสินหนงได้สอนให้ผู้คนรู้จักการเพาะปลูก และใช้คันไถ และยุคต่อมาก็คือ ยุคของหวงตี้ หรือ จักรพรรดิเหลือง หวงตี้ได้ทำสงครามกับเหยียนตี้ที่ปั่นเฉวียน สุดท้ายเหยียนตี้พ่ายแพ้ หวงตี้จึงขยายอำนาจการปกครองจากทางตอนเหนือลงไปทางใต้ จนถึงลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงและฮั่นสุ่ย ซึ่งหวงตี้ได้รับการนับถือจากชาวจีนรุ่นต่อมาว่าเป็น ฮ่องเต้หรือจักรพรรดิองค์แรกของจีน และชื่อของพระองค์ก็กลายมาเป็นคำว่า ฮ่องเต้ หรือ จักรพรรดิ ความหมายของชื่อก็กลายมาเป็นสีประจำตัวฮ่องเต้ด้วย คือ สีเหลือง ชาวจีนเชื่อว่า ในราชวงศ์ชั้นหลัง เช่น ราชวงศ์เซี่ย, ราชวงศ์ซาง, ราชวงศ์โจว ต่อมาต่างก็สืบเชื้อสายจากหวงตี้ทั้งนั้น






ตำนานการสร้างโลกของอินเดีย

       

ตรีมูรติ
     
ในคัมภีร์ ปัทมปุราณะ กล่าวไว้ว่าเดิมมีพระเป็นเจ้าองค์เดียวคือ พระพรหม ที่เรียกว่า พระอาตมภู (พระผู้เกิดเอง) พระพรหมเป็นผู้สร้างโลกโดยการสร้างน้ำขึ้นก่อนแล้วหว่านเชื้อพันธุ์ของพระองค์ลงไปในน้ำ เกิดเป็นไข่ทอง พระองค์เข้าไปอยู่ในไข่ ๑ ปี แล้วออกจากไข่มาเป็นพระพรหมาปิตามหา ผู้สร้างโลก เหตุที่มีกำเนิดในไข่ทอง พระพรหมจึงได้ชื่อว่า หิรันยครรภ อีกด้วย พระพรหมแบ่งภาคเป็น 3 ภาค หรือ ตรีมูรติ ซึ่งประกอบด้วย พระผู้สร้าง พระผู้บริหาร และพระผู้สังหาร คือ พระพรหม 
พระวิษณุ และพระศิวะนั่นเอง 
ตำนานฮินดูแบ่งเวลาออกเป็น ๔ ยุค 
ยุคแรก คือ กฤตะยุค ซึ่งยาวนาน ๔,๘๐๐ ปีสวรรค์ หรือ ๑,๗๒๘,๐๐๐ ปี มนุษย์ 
ยุคที่ ๒ คือ ไตรดายุค ยาวนาน ๓,๖๐๐ ปีสวรรค์ หรือ ๑,๒๙๖,๐๐๐ ปีมนุษย์ 
ยุคที่ ๓ คือ ทวาบรยุค ยาวนาน ๒,๔๐๐ ปีมนุษย์ หรือ ๘๖๔,๐๐๐ ปีมนุษย์ 
ยุคที่ ๔ คือ กลียุค ยาวนาน ๑,๒๐๐ ปีสวรรค์ หรือ ๔๓๒,๐๐๐ ปีมนุษย์ 
๔ ยุครวมกันเป็น ๑ มหายุค หรือ ๔,๓๒๐,๐๐๐ ปีมนุษย์ ๑,๐๐๐ 
มหายุคเป็น ๑ วัน ของพระพรหม กลางคืนก็ยาวเท่ากัน 
วันของพระพรหมเรียกว่า กัลป์ 
ใน ๑ กัลป์ มีพระมนูบังเกิด ๑๔ องค์ 
พระมนูมีหน้าที่สร้างมนุษย์ซึ่งแปลว่า ผู้เกิดจากมนู นั่นเอง                            อ่านต่อ >>


เพียงแค่ตำนานสร้างโลกของสองประเทศ
ก็ทำให้หัวหมุนไปเลย

แต่มีอีกหลายตำนาน
สำหรับวันนี้ก็ขอกลับไปอ่านตำนานสร้างโลกของสองประเทศก่อนครับ
คราวหน้าถ้ามีเวลามากพอ จะมาอัพเดทอีกหลายประเทศให้อ่านกัน

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้